ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

กำลังอยากจะผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ที่ตอบโจทย์และปลอดภัย

ความหย่อนคล้อยบนใบหน้า จะหมดไปด้วยการผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน

การผ่าตัดดึงหน้า เป็นเทคนิคหนึ่งของการศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อลดความหย่อนคล้อย ให้มีความกระชับเต่งตึง แก้ปัญหาเรื่องของหางตาตก ริ้วรอยใต้ตา ตีนกา ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมากลึก หลายๆ คนมีปัญหาความหย่อนคล้อยบนใบหน้าที่มากขึ้น ด้วยวัยอายุที่มากขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เราจะต้องมีการศัลยกรรม ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ด้วยการดึงหน้า แต่ว่าแล้วเราจะเลือกพิจารณาอย่างไร ว่าเราจะผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ที่มีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน กับผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

 

บริการผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ต้องเลือกที่ ศิริพรคลินิก

ถามว่า ทำไมต้องเลือกบริการนี้ กับศิริพรคลินิก เพราะ เรามีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ตรงกับการผ่าตัดดึงหน้าที่แก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี ความหย่อนคล้อยที่เกิดบริเวณ แก้ม คาง หรือคอที่เหี่ยว เพราะมีไขมันสะสม หรือเพราะอายุวัยที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจนใต้ผิว เริ่มหมดไป ทำให้การผ่าตัดดึงหน้า เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยต่างๆ ให้ดีขึ้น ซึ่งหลังการผ่าตัดเอาผิวหนังบางส่วนออกไป และทำการเย็บแผลแบบละเอียดซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทางศิริพรคลินิก ผู้รับบริการฟักฟื้นแค่ 1-2 วันเท่านั้น เรียกว่า หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เลย ส่วนเรื่องผลลัพธ์ที่ออกมา คือ จะรู้สึกได้ถึงความเต่งตีง กระชับ และเห็นผลได้อย่างชัดเจน เหมือนเราพาคุณย้อนวัย ย้อนอายุไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วอย่างไรอย่างนั้น ส่วนเรื่องของรอยแผลเป็นต่างๆ หลังการผ่าตัดจะค่อยๆ จางลง และหายไป

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

ซึ่งจะไม่เป็นแผลเป็นหรือคียรอยด์อย่างแน่นอน เรียกว่า ถ้าจะมองด้วยตาเปล่าๆ แบบปกติแทบจะมองไม่เห็นรอยแผลที่เกิดจากการผ่าตัดดึงหน้ากันเลยทีเดียว ผิวหน้าจะรู้สึกได้ถึงความกระชับอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ

การทำศัลยกรรมดึงหน้า (ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ) กับศิริพรคลินิก  จะช่วยกระชับทุกสัดส่วนของใบหน้า ตั้งแต่หน้าผากลงไปจนถึงหน้าส่วนล่าง เรียกว่าทุกจุดที่หย่อนคล้อย จะดูแก้และดึงจนสวยงาม ดูดีกระชับสวยเป็นธรรมชาติ ซึ่งในการผ่าตัดดึงหน้า เราก็จะคำนึงถึง การปรับแต่งระหว่างดึง ให้ออกมาสวยงาม

 

 

ผู้ชายสามารถรับบริการผ่าตัดดึงหน้าด้วยได้หรือไม่ ?

การผ่าตัดดึงหน้า ที่เราเห็นกันในกลุ่มของผู้หญิง ส่วนใหญ่ จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในกลุ่มของผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้ เพราะผู้ชายเอง ก็สามารถรับบริการผ่าตัดดึงหน้านี้ได้ เพียงแต่ศัลยแพทย์จะต้องอธิบายผลลัพธ์ หรือผลที่ได้หลังทำให้คุณผู้ชายทั้งหลาย รับทราบกันก่อน เพราะการที่ต้องดึงผิวหน้าไปเย็บ ไปขึงจะทำให้ตำแหน่งเคราเปลี่ยนไป แต่ทางศัลยแพทย์ ก็จะศัลยกรรมดึงหน้าให้มีจุดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่สำคัญๆ และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

หากคุณมีปัญหา ผิวหน้าหย่อนคล้อยอยู่ แล้วต้องการยกกระชับ ดึงผิวหน้ากลับมาให้เต่งตึงสวยงามเข้ารูปย้อนวัย ดูเป็นธรรมชาติ แต่ยังไม่รู้จะไปรับบริการผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ศิริพรคลินิกขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้คุณพิจารณา และตัดสินใจเลือกเรา ด้วยความเชี่ยวชาญ และผลลัพธ์การผ่าตัดดึงหน้ามากว่าหลายพันเคส ทำให้เรามั่นใจว่า ปัญหาความหย่อนคล้อย ของคุณจะได้รับการแก้ไข ด้วยผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน

ปัญหาถุงใต้ตา

ปัญหาถุงใต้ตา ปัญหานี้ ศิริพรคลินิกแก้ไขได้

บริการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ที่เกิดจากหลายๆ สาเหตุ มีทางออก แก้ไขได้

ปัญหาถุงใต้ตา เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่สาวๆ อย่างเรา หรือใครหลายๆ คน ไม่สามารถหลีกเหลี่ยงได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากถุงใต้ตาเทียม หรือแม้แต่ปัญหาที่เกิดจากถุงใต้ตาแท้ ก็ตาม แต่ถ้าหากเป็นปัญหาที่เกิดจากถุงใต้ตาเทียม ก็สามารถแก้ไขด้วยวิธีการต่างๆ ในเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง ซึ่งวันนี้เราจะหยิบมาฝาก สัก 5 วิธีการลดปัญหาถุงใต้ตาเทียม แบบธรรมชาติกันดีกว่า

ปัญหาถุงใต้ตา

ปัญหาถุงใต้ตาบวม รอยคล้ำใต้ถุงตา หรือรอยเหี่ยวย่น อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้สาวๆ หลายๆ คนขาดความมั่นใจ แต่วิธีการคืนความสดใสให้รอยคล้ำ รอยเหี่ยวย่นต่างๆ ดีขึ้น ทำได้ไม่ยาก ไปดูกันเลย

 

วิธีที่ 1 แตงกวาแช่เย็น คือความสดใสให้ถุงใต้ตาได้ดี วิธีการก็ง่ายๆ เพียงแค่ล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นๆ แช่เย็นให้เย็นช่ำ ๆ แล้วเวลาใช้ก็ให้นำมาแปะไว้ที่ดวงตา ทิ้งไว้ 25 นาทีต่อการทำ 1 ครั้ง ความเย็นของแตงกวาจะช่วยลดอการบวม ดำคล้ำ และลดอาการอักเสบ คืนความสดใสให้กับถุงใต้ตาเราได้

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่ 2 ใช้เกลือผสมน้ำอุ่น ชุบกับสำสี ก็ช่วยได้ วิธีก็ไม่ยากเช่นกัน เพียงแค่ชุบน้ำเกลือกับสำลี ทำเป็นแผ่นแปะไว้ที่ตา ทิ้งไว้สัก 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น นอกจากจะช่วยลดอาการบวมและอักเสบแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดฝอย ภายในดวงตาและรอบๆ ได้ดีอีกด้วย

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่ 3 ถุงชาแช่เย็น ก็สามารถลดอาการบวมของถุงใต้ตาได้ ให้นำเอาถุงชามาจุ่มน้ำเย็นอีกครั้งแล้วนำมาแปะทิ้งไว้ที่ดวงตาประมาณ 25 นาที จะช่วยลดอาการปวด และฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดได้ดี ทำต่อเนื่องบ่อยๆ วิธีนี้ ความดำคล้ำของถุงใต้ตาก็จะค่อยๆ เลือนหายไป

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่ 4 นมจืดแช่เย็นชุบด้วยลำลี วิธีนี้ ก็ให้นำมาแปะไว้ที่ดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยเรื่องปัญหาน้ำคั่งบริเวณดวงตาที่เป็นสาเหตุของการบวมและอักเสบอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของปัญหา ซึ่งหากทำเป็นประจำวิธีนี้ก็จะช่วยฟื้นฟู บำรุงผิวรอบดวงตาให้ชุ่มชื่นอีกด้วย

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่ 5 ไข่ขาว นำมาทาบริเวณปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดอาการบวม โดยให้ทาทิ้งไว้ 20 นาที จนรู้สึกว่าไข่ขาวแห้งและตึง วิธีนี้จะช่วยยกกระชับรอบดวงตาให้ดีขึ้น และทำให้ถุงใต้ตายุบลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ปัญหาถุงใต้ตา

ส่วนหากสาวๆ คนไหนที่มีอายุเริ่มมากขึ้นแล้วมีปัญหาถุงใต้ตาแท้ หย่อนคล้อย ผิวเริ่มเหี่ยว เริ่มมีไขมันส่วนเกินบริเวณถุงใต้ตาร่วมด้วย ในเคสแบบนี้ 5 วิธีลดอาการถุงใต้ตาในข้างต้นอาจจะให้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเป็นปัญหาสาเหตุหลักที่เกิดจากปัญหาถุงใต้ตาแท้ วิธีแก้ไขที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็คือ การผ่าตัดแก้ไขถุงใต้ตา ส่วนจะผ่าตัดด้วยเทคนิคขั้นตอนแบบไหน อาจจะเข้ามาขอรับคำแนะนำปรึกษากับทางศัลยแพทย์ ศิริพรคลินิกเราก่อนได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แอบแฝงในทุกบริการอย่างแน่นอน เพราะเรามั่นใจด้วยความพึงพอใจและความประทับใจของลูกค้าในเคสที่ผ่านๆ มา เรื่องปัญหาถุงใต้ตาของคุณที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เรื่องใหญ่อะไร ไว้วางใจเรา ให้แก้ไขปัญหาถุงใต้ตาของคุณ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง

ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

สวยและมั่นใจได้ ด้วยการยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

ให้อายุ และริ้วรอยความหย่อนคล้อย เป็นเพียงอดีต เพราะคุณจะสวย ย้อนวัยด้วยการยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด กับศิริพรคลินิก

 

จริงๆ แล้วการยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด นั้นในวงการเสริมความงาม มีด้วยกันหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและความชำนาญของศัลยแพทย์ของแต่ละคลินิก  ให้กับสาวๆ ที่อยากจะสวยแต่ไม่อยากผ่าตัด ซึ่งทางทีมงานศิริพร คลินิก บอกกันก่อนเลยว่าเป็นเทคโนโลยี ที่ยกกระชับผิวได้โดยไม่ต้องผ่าตัดที่นิยมทำกันอยู่ในปัจจุบันจ้า

การยกกระชับหน้าด้วย Ulthera (อัลเธอร่า) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการยกกระชับด้วย Ultrasound โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นการส่งพลังงาน ultrasound เข้าไปสู่ชั้นผิวหนังด้วยเสีง เพื่อลดและต่อต้านความหย่อนคล้อย ที่เกิดขึ้นจากอายุที่มากขึ้นและวัยที่เสื่อมโทรมไปตามธรรมชาติ โดยคลื่นจะลงไปยังชั้นผิว ลึกระดับเดียวกับที่เราต้องผ่าตัดดึงหน้า ข้อดีขึ้น ไม่มีแผล นิยมใช้ยกคิ้วและปรับรูปหน้า ได้ผลลัพธ์ที่ดี

ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

 

การยกกระชับหน้าด้วย Thermage (เทอมาจ) เป็นการยกกระชับผิวหน้าด้วยการใช้คลื่นวิทยุลงไปยกกระชับผิวในชั้นลึก ที่มีคอลลาเจนและไขมันใต้ผิว ทำให้เกิดการหดตัวและกระชับมากขึ้น ซึ่งหลังจากผ่านกระบวนการยกกระชับด้วยวิธีนี้ จะรู้สึกได้ผิวมีความละเอียดขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ดูตื้นขึ้นและเรียบเนียนขึ้น ส่วนใหญ่จะนิยม ยกกระชับบริเวณใต้ตา ร่องแก้มและมุมปากให้ยกกระชับขึ้น แนะนำว่าควรทำต่อเนื่อง 1-3 เดือน

ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

 

การยกกระชับหน้าด้วย Exilis (เอ็กซิลลิส) เป็นอีกหนึ่งวิธีการยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุ Monopolar RF ผนวกกับ Oscillation Mechanism และ Cooling system ซึ่งจะส่งไปกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวใหม่ เพิ่มการเผาผลาญไขมันส่วนเกินด้วยพลังานความร้อนและทำให้ไขมันหดตัวเล็กลง ลดอาการบวมน้ำ และยกกระชับผิวไปพร้อมๆ กัน สังเกตได้ตั้งแต่วันแรกที่ทำ และควรทำต่อเนื่องประมาณ 3-5 ครั้งขึ้นอยู่กับอายุและสภาพผิวจ้า

ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

 

การยกกระชับหน้าด้วย HIFU (ไฮฟู่) เป็นการยกกระชับและดูแลผิวด้วยเทคโนโลยีอัลตราซาวด์  ซึ่งทางศัลยแพทย์จะต้องมีประสบการณ์และความชำนาญโดยตรงเกี่ยวกับการทำ Hifu ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้ผิวยกกระชับ และลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยได้เป็นอย่างดี

ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

นี่คือ เทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นหนึ่งในเทคนิควิธีการยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด เพื่อให้คุณและผิวของคุณแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตัวเลขของวัยและอายุจะมากขึ้นก็ตาม เรียกว่า ความสวยและความอ่อนเยาว์ไม่สามารถหยุดเราได้ และไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่านการดึงหน้าจากมีดหมอ ก็สวยได้  นอกจากนี้เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจบริการอื่นๆ เกี่ยวกับความงาม สามารถเข้ามาขอรับคำแนะนำปรึกษาจากเรา ศิริพรคลินิก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามครบวงจร  เบอร์โทรศัพท์ : 094-969-4699

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด กับศิริพร คลินิก

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด รักษาได้จริง ขั้นตอนการรักษาไม่ยุ่งยาก

เดียวนี้ เทคนิคการรักษา ภาวะอาการปัญหาช่องคลอดหลวม ให้กระชับได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการรักษาได้จริง ไม่ใช่เป็นการรักษาเพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งด้วยการผ่าตัดยกกระชับ ตัวช่องคลอดที่มีปัญหาหลวม ให้ดูกระชับแค่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ช่องคอลดกระชับได้ตั้งแต่ ภายในจรดภายนอก แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาตินใหม่ ทำให้ภายในช่องคลอดกระชับและแข็งแรงได้มากขึ้นอีกด้วย

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

เทคนิคที่ว่า สำหรับการรักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งทางฝั่งของศัลยแพทย์และผู้ที่รับบริการรักษา ก็คือ การใช้เทคนิคของการเลเซอร์ยกกระชับ ซึ่งด้วยเทคนิคและขั้นตอนต่างๆ ที่ทางศิริพร คลินิกเราเชี่ยวชาญและชำนาญ เป็นอีกหนึ่งบริการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่เข้ามารับการรักษากับทางเรา มีความประทับใจ ได้ผลตอบรับที่ดี สำหรับเครื่องเลเซอร์ที่ทางคลินิก นำเข้ามาใช้เพื่อรักษาและแก้ไขปัญหาช่องคลอดหลวม ให้กลับมากระชับ ฟิต แข็งแรงเหมือนช่องคลอดสมัยสาวๆ ได้อีกครั้ง ก็คือ เครื่องเลเซอร์ Fotona 4D ที่เป็นที่ยอมรับและนิยมนำมาใช้ในการรักษาในต่างประเทศกันอย่างแพร่หลายอีกด้วย

 

รักษาช่องคลอดหลวม ด้วยเครื่องเลเซอร์  Fotona 4D

ช่องคลอดหลวมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าคุณกำลังมีปัญหานี้ อย่าอายที่จะรักษา เพราะความอาย ทำให้ผู้หญิงเราเสียความมั่นใจไปมาก แต่ก็ไม่ควรปล่อยปัญหานี้ทิ้งไว้นาน เพราะจะกลายเป็นปัญหาครอบครัวในอนาคตได้ ความสุขทางเพศเป็นเรื่องสำคัญ คืนความมั่นใจให้เราด้วยการรีแพร์รักษาช่องคลอดหลวม ด้วยเครื่อง เลเซอร์  Fotona 4D รักษาได้ง่ายๆ มั่นใจทุกการรีแพร์ คืนความกระชับอย่างปลอดภัย

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

 

สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดหลวมก่อนวัยอันควร

1.เกิดจากการตั้งครรภ์ และการคลอดบุตรตามธรรมชาติ คลอดบุตรหลายๆ คน

2.น้ำหนักตัวมากเกินไป หรืออาจะมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ นานๆ

3.เกิดจากฉีดขาดจากการเคลื่อนตัวของลำไส้ เนื่องจากการยกของหนักบ่อยๆ

4.เกิดจากอาการเจ็บป่วย หรือการไอเรื้อรังเป็นเวลานาน

5.เกิดจากการตรวจเจอก้อนเนื้อในช่องท้อง หรือการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง

6.เกิดจากความหย่อนคล้อยตามวัยที่มากขึ้น ในกลุ่มของ ผู้สูงอายุ วัยทอง

7.เกิดจากอุบัติเหตุหรือความเสียหาย ความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในช่องคลอด

 

ทำไม คุณต้องมายกกระชับรักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด กับศิริพรคลินิก

1.เพราะเรามีทีมศัลยแพทย์ ผู้ที่เชี่ยวชาญและชำนาญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาช่องคลอดหลวม ทุกสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยมีการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ไม่ยืดเยื้อ

2.มีนวัตกรรม เครื่องยกกระชับช่องคลอดที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการทดสอบและได้รับกายอมรับจากองค์กรในต่างประเทศ กับ เครื่องเลเซอร์ Fotona 4D

3.อุปกรณ์ทุกชิ้นได้รับการรังรองว่าถูกต้อง ปลอดภัยมั่นใจได้ว่า มีมาตรฐาน 100%

4.คลินิกมีการจัดเก็บข้อมูลของคนไข้ไว้เป็นความลับ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ 100%

5.การันตีด้วยประสบการณ์ ความชำนาญ และเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับเคสการรักษา พร้อมโปรแกรมการรีแพร์ดูแลกับทางศิริพรคลินิกมากกว่า 1,000 เคส คุณจึงมั่นใจกับบริการและผลลัพธ์ที่ได้หลังการรักษา

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

สนใจเข้าร่วมโปรแกรมการรักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด กับศิริพร คลินิก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำปรึกษา กับศัลยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญได้โดยตรงที่ คลินิก หรือโทรสอบถามข้อมูลการรักษาก่อนได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ : 094-969-4699 ได้ทุกวันทำการ

หนังตาตก

ปัญหาหนังตาตก แก้ปัญหาได้ด้วย Sub Brow Lift

อยากจะตัดยกชั้นตา แก้หนังตาตก ด้วยเทคนิคการรักษา กับ ศิริพรคลินิก

ปัญหาหนังตาตก อาจจะเกิดขึ้นกับสาวๆ หลายๆ คน ที่เกิดจากเปลือกตาด้านบน มีปัญหา เริ่มตก ทำให้มองเห็นชั้นตาไม่ชัดเจน และบางราย อาจจะมีภาวะ หนังตาตกหย่อนลง แตกต่างกันไป ส่วนในรายที่ยังไม่มีหนังตาตกหย่อนลงมามากนัก อาจจะยังไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเอาหนังตาออกด้วยได้ แต่สามารถใช้วิธี ยกชั้นหนังตาขึ้น ให้เด่นชัดเจน ทำให้ดวงตาโต ดูสดใสมากขึ้น และยังทำให้รูปหน้าโดยรวมแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย

หนังตาตก

การทำ Sub Brow Lift  เป็นอีกหนึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาหางตาตก และทำให้ดวงตาดูสวย ดูโตขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ ส่วนในเรื่องของตัวแผลบริเวณใต้คิ้ว จะใช้เทคนิคการซ่อนแผล  ขึ้นอยู่กับความชำนาญ และเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์แต่ละบุคคลไป  ซึ่งแผลเป็นหลังการผ่าตัด ก็จะมีการกรีดและเย็บแผลโดยละเอียด เมื่อแผลหายสนิทและ รอยแผลเป็นจะค่อยๆ จางลง จนไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในคนที่มีคิ้วเยอะ จนมีขนคิ้วลงมาปกปิด อาจจะทำให้มองไม่เห็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดด้วยซ้ำ เพราะตัวแผลจะอยู่ชิดกับขอบด้านล่างของตัวคิ้ว  ทำให้หลังการตัดไหม การเขียนคิ้วก็สามารถลบรอยแผลเป็นได้อย่างแนบเนียน

 

ขั้นตอนการรักษา แก้ไขปัญหาหนังตาตก ด้วยเทคนิค Sub Brow Lift

เริ่มจากทางศัลยแพทย์จะทำความสะอาดและ ฆ่าเชื้อบริเวณจุดที่จะมีการผ่าตัด ซึ่งก็จะฉีดยาชาเฉพาะที่ ในจุดนั้น ๆ และจะเริ่มทำการกรีด เพื่อเปิดปากแผลบริเวณตามแนวคิ้ว หลังจากนั้นก็จะเริ่มยกเปลือกตาที่หย่อนคล้อยขึ้น ซึ่งในการผ่าตัดยกเปลือกตานั้น บริเวณหางตาก็จะถูกยกขึ้นด้วย ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกไปในตัว เมื่อทำการยกขึ้นเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำการเย็บและซ่อนบาดแผลไว้บริเวณใต้คิ้ว เพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นบนใบหน้า  ตรงจุดที่มองเห็นได้เด่นชัดนั่นเอง 

หนังตาตก

 

การดูแลตัวเอง ก่อนทำ และหลังทำ Sub Brow Lift ควรจะมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

ก่อนทำการผ่าตัด  Sub Brow Lift

1.ให้งดการทานยาในกลุ่มพวกยาละลายลิ่มเลือด วิตามิน A E C หรือสมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันตับปลา ก่อนที่จะได้รับการผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์

2.งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะรับการผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์เช่นกัน

หนังตาตก

 

หลังทำการผ่าตัด  Sub Brow Lift

หลังการผ่าตัด ช่วง 1-2 วันแรก ให้ทำการประคบร้อน เย็น เพื่อลดอาการบวม และทำให้แผลผ่าตัด หายได้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องของการนอนหลับพักผ่อน ควรนอนให้ศีรษะสูงไว้ก่อน พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำ เพื่อลดภาวะเสี่ยงที่แผลอาจจะติดเชื้อได้ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ไข่ อาหารทะเล และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย

หนังตาตก

หากคุณคือคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องหนังตาตก อยากจะยกกระชับหางตา ทำให้ดวงตาดูสวยและสดใส สามารถเข้ามาขอรับคำแนะนำปรึกษา จากทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากศิริพรคลินิกก่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เบอร์โทรศัพท์ : 094-969-4699 เพราะเรื่องสุขภาพและความงาม เราให้ความสำคัญและเอาใส่ใจกับคุณเสมอ

ปัญหาถุงใต้ตา

ลดปัญหาถุงใต้ตา ให้ดีขึ้นได้ที่ ศิริพรคลินิก

ปัญหาถุงใต้ตา เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย และหากอายุยิ่งมากขึ้น ความเสี่ยงยิ่งพบมากขึ้น

ปัญหาถุงใต้ตา (Eye bags) เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความกังวลให้หลายๆ คนไม่น้อย ยิ่งถ้าเกิดขึ้นกับสาวๆ หลายๆ คน ที่มีถุงใต้ตาบวม ถุงใต้ตาเกิดความหย่อนคล้อย มันอาจจะทำให้ภาพรวมของใบหน้าของคุณ ดูโทรม ดูแก่กว่าวัยอันควร  และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่ามันสามารถเกิดได้หลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเกิดปัญหาจากกรรมพันธ์ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันของตัวเราเอง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาหมองคล้ำหรือหย่อนคล้อย ซึ่งวันนี้เราจะมาดูภาพรวมของสาเหตุและแนวทางการแก้ไข

ปัญหาถุงใต้ตา

สาเหตุของการเกิดถุงใต้ตา มีอยู่ด้วยกัน 2 นั่นคือ ปัญหาที่เกิดจากถุงใต้ตาแท้ และถุงใต้ตาเทียม นี่คือต้นต่อของการเกิดปัญหาถุงใต้ตา 2 ประเภท โดยปัญหาถุงใต้ตา หากเกิดจากถุงใต้ตาเทียม ก็สามารถรักษาให้ดีขึ้นและหายได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากเกิดจากปัญหาของถุงใต้ตาแท้ อาจจะต้องหาวิธีรักษาด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

 

การรักษาปัญหาถุงใต้ตาแท้

วิธีแรก นั่นคือ การรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งหลังการผ่าตัดจะทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ดูไม่เหนื่อยล้า  เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณถุงใต้ตามากกว่าปกติ และมีผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อย โดยศัลยแพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิค เคสการรักษา หรืออาการที่ควรผ่าตัดรักษาในแต่ละบุคคลไป อาจจะรักษาโดยการใช้มีดผ่าตัดหรือใช้เลเซอร์ก็แล้วแต่ เพื่อนำเอาถุงไขมันส่วนเกินบริเวณใต้ตาออกไป การกรีดแผล อาจจะเลือกกรีดจากด้านใน มีข้อดี คือ จะทำให้มองไม่เห็นรอยแผล แต่การรักษาแบบนี้จะมีข้อเสียที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ นั่นก็คือปัญหา “ร่องตาลึก” ที่มองเห็นได้ชัด ส่วนในเคสที่ต้องกรีดผ่าตัดรักษาจากภายนอก ก็อาจจะมีการปรากฎให้เห็นซึ่งรอยแผลเป็นบริเวณใต้ดวงตา ปัจจุบันเอง ก็จะมีเทคนิคการรักษารอยแผลเป็นต่างๆ ได้ดีกว่าสมัยก่อนมาก ข้อดี ก็คือ สามารถตัดส่วนของผิวหนังใต้ตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออกไปได้ด้วย

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่สอง รักษาด้วยการฉีดสารเติมเต็ม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้รักษาถุงใต้ตาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้วิธีแก้ไขแบบวิธีแรก เพื่อเข้าไปเติมเต็มร่องขึ้น หรือบริเวณถุงตา ที่ดูบวมปูด ให้ดูเติมเต็มและอวบอิ่มมากขึ้น

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่สาม รักษาถุงใต้ตา ด้วยการลดอาการบวมของถุงใต้ตาด้วยคลื่นวิทยุ การใช้คลื่น RF ที่จะเข้าไปทำให้ไขมันบริเวณถุงใต้ตาเล็กลง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ปัญหาถุงใต้ตาที่เป็นอยู่ หายไปได้ เป็นเพียงการช่วยยกกระชับผิวใต้ตา เพื่อทำให้ถุงใต้ตาเล็กลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ปัญหาถุงใต้ตา

 

วิธีที่สี่ การฉีดสลายไขมันใต้ตา รวมไปถึงการทายากระชับผิว วิธีนี้อาจจะแก้ปัญหาได้ชั่วคราว และไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ดีเท่าไร เป็นวิธีที่ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะไม่แนะนำเลย แต่ก็ยังมีบางคลินิกที่เลือกวิธีการแก้ถุงใต้ตาด้วยวิธีนี้กันอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มของหมอกระเป๋า ราคาถูกๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานและความปลอดภัย

ปัญหาถุงใต้ตา

และนี่เป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตาแท้ ที่ทีมงานหยิบมาฝากเพื่อนๆ กัน หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย  เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจและอยากจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณอย่างจริงๆ จังๆ สามารถเข้ามาขอรับคำแนะนำปรึกษาจากทีมศัลยแพทย์ของศิริพรคลินิกได้ ด้วยวิธีการรักษาที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย 100% คุณจึงมั่นใจได้กับแนวทางแก้ปัญหาที่ดีและถูกต้อง  รับรองว่าคุณจะต้องถูกใจและไม่ผิดหวัง

 

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

เลือกคลินิกผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ที่มั่นใจได้และปลอดภัย

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? หนึ่งในคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการดึงหน้า ต้อง ศิริพรคลินิก

อยากดึงหน้า แต่จะไปผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี  คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับใครหลายๆ คน ที่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า / ศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อแก้ไขจุดหย่อนคล้อย บนใบหน้า อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของวัย และอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้หลายๆ ปัจจัย เช่น มวลกระดูก กล้ามเนื้อ หรือความยืดหยุ่นของใบหน้า ที่ลดลง ผิวหนังที่หน้าผาก แก้ม กราม คางและคอ ก็จะห้อยลงมา ซึ่งหนึ่งในวิธีการปรับแก้ไขความหย่อนคล้อยในลักษณะแบบนี้ที่ดีที่สุด ก็คือ การผ่าตัดดึงหน้า เพื่อให้ใบหน้าเต่งตึง ดูสดใส แลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

 

ส่วนเรื่องของเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า ? อันนี้มันขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละโรงพยาบาลที่รับทำการผ่าตัดและศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งศัลยแพทย์แต่ละท่าน แต่ละคลินิกก็จะมีเทคนิคพิเศษที่แตกต่างและมีจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันไป  ส่วนการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราปรึกษากับศัลยแพทย์เพื่อตัดสินใจที่จะรับการผ่าตัด ก็ควรจะมีการปฏิบัติตัวดังนี้

1.ควรจะมีผลการตรวจสุขภาพ ตรวจร่างกายทุกอย่าง รวมถึงประวัติการรักษา หรือผลตรวจอย่างละเอียดสำหรับผู้ที่ต้องการรับการผ่าตัดดีงหน้า สำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป รวมถึงคนที่มีความเสี่ยงกับโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดัน ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงที่ศัลยแพทย์จะต้องรับทราบ เพราะต้องดมยาสลบในระหว่างการผ่าตัดดึงหน้า

2.ให้หยุดสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์

3.ต้องมีการพูดคุยกับศัลยแพทย์ให้ชัดเจน ถึงความต้องการและผลลัพธ์ต่างๆ ที่คาดหวัง หลังจากการได้รับการผ่าตัดดึงหน้า เช่น ผลลัพธ์เรื่องของริ้วรอยต่างๆ หลังการผ่าตัด รวมถึง ความสมดุลของใบหน้าทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

 

และก่อนที่จะทราบว่า ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี เราจะมาดูวิธีการดึงหน้ากันก่อน ซึ่งในแต่ละส่วนที่นิยมผ่าตัดของศัลยแพทย์กัน ว่ามีจุดไหนอย่างไรกันบ้าง โดยทั้งหมดที่เรารวบรวมมา ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศัลยแพทย์ ในแต่ละบุคคลในแต่ละเคส ซึ่งจะได้รับการผ่าตัดดึงหน้าไม่เหมือนกัน ในการผ่าตัด จะต้องได้รับการดมยาสลบ หรือยาชา เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดนอนหลับไป ปกติแล้ว จะมีระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-4 ชั่วโมง  โดยการผ่าตัดดึงหน้า  ให้แลดูอ่อนเยาว์ลดปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ความหมองคล้ำต่างๆ ให้เหมือนธรรมชาติ จะมีด้วยกัน  6 แบบดังนี้

1.การผ่าตัดดึงโหนกแก้ม- ร่องแก้ม ( Mini facelift / Midface lift )

2.การผ่าตัดดึงหน้าทั้งหน้า ( Full face lift)

3.การผ่าตัดดึงหน้าโดยใช้วัสดุสังเคราะห์ (Endotine – Mid face lift)

4.การผ่าตัดกระชับลำคอ/ ผ่าตัดดึงคอ มี 2 เทคนิคตามตำแหน่งการเปิดแผลผ่าตัด ดังนี้

  • เปิดแผลที่หน้าหูหลังหู ยาว (Neck Lift )
  • เปิดแผลเล็กๆใต้คาง (Neck Tuck )

5.การผ่าตัดดึงคิ้ว ( Brow Lift / Forehead lift )เป็นการดึงระดับคิ้วขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น คิ้วไม่ตกง

การผ่าตัดดึงคิ้วมี 3 แบบดังนี้

  • ผ่าตัดดึงคิ้วด้วยกล้อง ข้อดีคือแผลเล็ก
  • ผ่าตัดดึงคิ้วแผลเหนือหู ประมาณ5-7 เซนติเมตร
  • ผ่าตัดดึงคิ้วแบบแผลกว้าง ในกรณีที่ต้องการ ดึงหน้าผากทั้งหมดให้สูงขึ้น ลดริ้วรอยที่เป็นมากที่หน้าผากอีกด้วย

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

 

6.การทำให้หน้าตึงด้วยการฉีดไขมัน( Fat graft )

ซึ่งในแต่ละแบบที่เรายกตัวอย่างไป ศัลยแพทย์แต่ละบุคคลอาจจะมีการนำเอาเทคนิคหลายๆ รูปแบบมาใช้และผสมผสานกัน เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า ทำให้ดูอ่อนเยาว์ ใบหน้าหลังการผ่าตัดทำให้ดูอูม อวบอิ่ม สวยงามขึ้นนั่นเอง

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

 

มาดูกันต่อเรื่องการดูแลแผลอย่างไรหลังการผ่าตัด ไม่ให้เกิดผลกระทบ หรือผลข้างเคียงใดๆ กับเรา

1.หลังการผ่าตัด ผู้ที่รับการผ่าตัด ควรจะนอนหมอนสูง ยกศีรษะให้สูงไว้เท่าที่จะทำได้

2.ไม่ควรล้างหน้า สระผม ประมาณ 2-4 วันหลังการผ่าตัด เพื่อให้ไม่มีผลกระทบกับแผลที่ผ่าตัด

3.ควรจะเคลื่อนไหวร่างกาย หรืออวัยวะต่างๆ ให้ช้าลง เพื่อไม่ให้กระทบกับระบบเลือดที่ไหลเวียน

4.ควรจะสวมผ้ารัดใบหน้า ประมาณ 3-4 วันแรก

(สวมเฉพาะเวลากลางคืนอย่างน้อย 1 เดือนเพื่อช่วยลดอาการบวมที่เกิดจากการผ่าตัด)

5.งดการออกกำลังกาย อย่างน้อย 1 เดือน

6.หยุดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 เดือน

7.ไปพบศัลยแพทย์เจ้าของไข้ทุกครั้ง เพื่อเฝ้าติดตามผลหลังจากการผ่าตัด

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

 

หลังการผ่าตัด ความเสี่ยงและปัญหาอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หลังการผ่าตัดดึงหน้า

1.ปัญหาเรื่องของอาการเลือดคั่ง ที่อาจจะเกิดขึ้นใต้ผิวหนังหลังการผ่าตัด

2.ปัญหาเรื่องของการสะสมของน้ำเหลือง ในบางจุด บางส่วนของใบหน้า ที่เกิดจากการยุบและบวม

3.อาการผมร่วง หรือจุดที่มีอาการเปิดแผล ซึ่งบางรายอาจจะต้องทำการปลูกผมใหม่

4.อาการแผลคีลอยด์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการตัดไหม

5.ภาวะเนื้อผิวหนังตาย เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงส่วนนั้นไม่พอ

6.อาการผิวหนังไม่เรียบ ส่วนนี้อาจจะใช้วิธีการแก้ไข วิธีอื่นๆ ช่วยได้

7.อาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วเป็นๆ หายๆ เป็นอาการชั่วคราวที่จะหายได้เองใน 6-12 เดือน

ส่วนการพักฟื้นหลังการผ่าตัดแล้ว อาจจะมีอาการบวมช้ำ และอาจจะมีอาการชาร่วมด้วยประมาณ 1-2 สัปดาห์ ต้องใส่ผ้ารัดหน้า ตลอดทั้งวัน เป็นเวลา 3-4 วันหลังการผ่าตัด หลังจากนั้นก็จะใส่ผ้ารัดหน้าแค่ช่วงเวลากลางคืน เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อลดอาการบวมช้ำที่บริเวณหน้า ซึ่งก็จะค่อยๆ ยุบและดีขึ้น หลังจากนั้น อาจจะค่อยเริ่มนวดหน้าเบาๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเส้นประสาท ไล่น้ำเหลือง ซึ่งจะสามารถทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ เบาๆ หลังจากผ่านตัด ประมาณ 2 สัปดาห์ และอาการยุบวมก็จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และเริ่มเป็นปกติ ไม่มีอาการชา จนเริ่มเห็นผลลัพธ์การผ่าตัดที่ชัดเจนเต็มที่ประมาณ 6-12 เดือน

 

ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี

และนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจอยากจะรับบริการผ่าตัดดึงหน้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปรับบริการ ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ? ลองเข้ามารับคำแนะนำ รับคำปรึกษากับทางศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญ เฉพาะด้านเกี่ยวกับ การผ่าตัดตึงหน้าโดยตรง ที่ศิริพร คลินิก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามครบวงจร

เบอร์โทรศัพท์ : 094-969-4699

Facebook Page : Siriporn Aesthetic ศิริพร สุขภาพและความงาม

อีเมล์ : info@drsiriporn.com

วันทำการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) 11:00 น.- 20:00 น.

ที่อยู่ : 14/41 ซอยเจริญกรุง 107 ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120

ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถ ยกกระชับหน้าไม่ต้องผ่าตัด

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

นวัตกรรมใหม่ รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

แนวทางการรักษาแบบใหม่ สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอด รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด ที่ศิริพรคลินิก

ปัญหาเรื่องของการรีแพร์ รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด ในปัจจุบันกำลังได้รับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และมีแนวทางการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น การรักษาแบบใหม่ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ทำให้ลืมการรักษาและการรีแพร์กระชับช่องคลอดด้วยการผ่าตัด ในแบบเดิมๆ ไปได้เลย ผู้หญิงหลายๆ คน อาจจะมองข้ามละเลย และไม่กล้าเปิดเผย เรื่องหนึ่งที่อาจจะกำลังเป็นกันอยู่ ก็คือ ปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ซึ่งหากปล่อยทิ้งปัญหาต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย รวมถึงความรู้สึกทางด้านอารมณ์และจิตใจด้วย

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่เริ่มมีอายุมากขึ้น เพราะปัญหาที่จะตามมา ไม่เพียงแต่ผลพวงเรื่องของช่องคลอดหย่อนคล้อย  ไม่กระชับแล้ว อีกหนึ่งประเด็นปัญหาที่สำคัญ ก็คือ เรื่องของภาวะการกลั้นปัสสาวะเอาไว้ไม่อยู่  ซึ่งทำให้สุขภาพในกลุ่มของผู้หญิงจำนวนมาก ที่มีอาการดังกล่าว ขาดความมั่นใจในตัวเอง และไม่อยากที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ หรือการเข้าสังคมไปเลยก็มี จากผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงส่วนมากที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จำนวน 2 ใน 3 มีปัญหาเรื่องของช่องคลอดหลวม  แต่ไม่กล้าจะออกมาตรวจและทำการรักษาให้ถูกวิธี  เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากความอับอาย และคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการรักษานาน และยุ่งยากด้วย

 

มาดูกันต่อที่สาเหตุหลักสำคัญ ว่าทำไมช่องคลอดจึงหลวม ???

ทำไมช่องคลอด ถึงหลวมได้  ไม่กระชับ เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ในบางราย อาการหนักจนก่อให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ด กลั้นไม่อยู่  ควบคุมไม่ได้เลยก็มี มักเกิดขึ้นในผู้หญิงช่วงอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป  โดยสาเหตุเกิดได้หลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเกิดจากการคลอดบุตรโดยวิธีธรมชาติ ซึ่งก็ทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ หรืออาจจะเกิดจากการฉีดขาดของคอลลาเจน และอีลาสตินในช่องคลอดก็เป็นไปได้ 

รวมถึง การเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อจากทางเดินปัสสาวะ  หรืออาจจะเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน ทั้งนี้ให้สังเกตตัวเราเองด้วยว่า เรามีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะช่องคลอดหลวมแล้วหรือไม่ ? เช่น แค่เพียงการไอ จาม หรือหัวเราะ ก็มักจะทำให้ปัสสาวะเล็ดออกมาได้เป็นประจำ

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

ซึ่งถ้าอาการเริ่มหนักมาก อาจจะต้องเข้ากับการรักษาด้วยการศัลยกรรมตกแต่งขนาดของช่องคลอด หรือการทำ Repair ให้เล็กลง ซึ่งเป็นวิธีแบบเดิมๆ ที่เจ็บและแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ไม่ดี เท่าที่ควร เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่บริเวณปากช่องคลอดเท่านั้น ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณปกช่องคลอดกระชับหรือเล็กลง และแข็งแรงขึ้นแต่อย่างใด

 

ปัจจุบันเองมีเทคโนโลยี การรีแพร์และรักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้ดีกว่า ปลอดภัยกว่า แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด  ให้หายได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ต่อการรักษาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น วิธีที่ว่า ก็คือ เทคโนโลยีการรักษาด้วยการเลเซอร์ คืนความสาว แก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี  เพราะจะรักษาด้วยการนำเอาพลังงานเลเซอร์ มาทำให้เนื้อเยื่อช่องคลอด ถูกกระตุ้นและเกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทั้งภายในและบริเวณเนื้อเยื่อโดยรอบ ตลอดแนวลึกของตัวช่องคลอด ซึ่งจะทำให้เกิดการหดตัวและทำให้มีขนาดเล็กลง ของผนังช่องคลอด ทำให้หลังการรักษา ผู้ที่ได้รับการรักษาจะรู้สึกถึง ความกระชับตึง ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดหลวมได้ถึง 90% เลยทีเดียว

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

 

ส่วนปัญหาเรื่องปัสสาวะเล็ดก็หายไป ซึ่งการทำรีแพร์ด้วยการผ่าตัดจะไม่สามารถทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่า วิธีการรักษาด้วยเลเซอร์ในข้างต้น  เรียกว่า สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้  ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษากันเลยทีเดียว ปกติการรักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด ด้วยวิธีการเลเซอร์กระชับช่องคลอด ควรจะทำประมาณ 1-3 ครั้งในทุกๆ 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพและปัญหาของแต่ละบุคคลที่เกิดขึ้น เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้คุณสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องช่องคลอดหลวม หรือช่องคลอดมีปัญหา เกิดปัสสาวะเล็ดบ่อยๆ หมดกังวลกันได้เลย  เพราะคุณจะได้ช่องคลอดที่กระชับ เหมือนคุณได้กลับมาเป็นสาวๆ อีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัดรีแพร์ให้เจ็บตัวกันอีกต่อไป แล้วยังได้ผลลัพธ์ที่แก้ปัญหาดีอีกด้วย

รักษาช่องคลอดหลวม ไม่ต้องผ่าตัด

อย่าพึ่งกังวล หากคุณผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องช่องคลอดหลวม ปัสสาวะเล็ด แล้วอยากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป สามารถแก้ไขปัญหาและรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี หากคุณได้รับคำแนะนำ วิธีการรักษาที่ถูกต้อง คุณจะไม่ต้องเครียดอีกต่อไป กับการรักษา กระชับช่องคลอดด้วยการเลเซอร์ กับทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญเฉพาะทางที่ศิริพร คลินิก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามครบวงจร

 

เบอร์โทรศัพท์ : 094-969-4699

Facebook Page : Siriporn Aesthetic ศิริพร สุขภาพและความงาม

อีเมล์ : info@drsiriporn.com

วันทำการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) 11:00 น.- 20:00 น.

ที่อยู่ : 14/41 ซอยเจริญกรุง 107 ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120

หนังตาตก

ภาวะอาการหนังตาตก แก้ไขได้ อย่าปลอยทิ้งไว้นาน

อย่าคิดว่า อาการหนังตาตก เป็นเรื่องเล็กๆ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ มีผลกระทบกับการมองเห็นของคุณโดยตรงได้

ภาวะหนังตาตก เป็นปัญหาที่เริ่มพบบ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้จำกัดเพศ จำกัดอายุแต่อย่างใด สามารถพบปัญหาหนังตาหย่อนนี้ได้ทุกเพศ ทุกวัย ส่วนเรื่องของความรุนแรงหลายๆ คน มักจะมองข้ามและคิดว่าเป็นปัญหาความบกพร่องทางร่างกายที่ไม่ส่งผลกระทบอะไร  ต่อการดำเนินชีวิต แต่คุณกำลังคิดผิดอย่างรุนแรงภาวะหนังตาตก มีความรุนแรงหลายระดับ หากพบว่าชั้นตาที่เคยมี เริ่มหลุดออกไป แนะนำว่า หากสังเกตพบความผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์และรีบทำการรักษา เพราะหากปล่อยไว้แล้วมีอาการที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ซึ่งก็ควรได้รับการตรวจวิเคราะห์รักษาอย่างถูกต้องและรับการผ่าตัดแก้ไขให้รูปลักษณ์ดวงตากลับมามองเห็นได้อย่างปกติสุขมากที่สุด

หนังตาตก

 

ภาวะหนังตาตก คืออะไร ? เรามาไขข้อข้องใจ และทำความเข้าใจกันก่อน

ภาวะหนังตาตก คือ ภาวะอาการที่เปลือกตา ซึ่งเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีหน้าที่ช่วยป้องกันอันตรายใดๆ ก็ตาม  ที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกตา ดวงตาของเรา ไม่ว่าจะเป็น การช่วยป้องกันแสงแดด แสงสว่างที่มากเกินไป แสงไฟฟ้า รวมถึง สิ่งแปลกปลอมและฝุ่นละออง ที่อาจจะเข้ามากระทบและทำลายกระจกตาของเราได้ ภาวะหนักตาตก คือ ภาวะผิวหนังบริเวณเปลือกตาของเรา ตกลงมาบดบังการมองเห็น ซึ่งหากอยู่ในภาวะปกติแล้ว หนังตาจะต้องคลุมตาดำไม่เกิน 2 มิลลิเมตรเท่านั้น หากตกลงมามากกว่านี้จะทำให้ตาดำมีการมองเห็นในมุมมองที่น้อยและแคบกว่าปกติ

 

สาเหตุของการเกิดภาวะหนังตาตก สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่มีปัญหาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งกลุ่มนี้ เกิดจากกล้ามเนื้อที่บริเวณหนังตาเกิดความผิดปกติมาตั้งแต่แรกเกิด เป็นโรคที่สามารถส่งต่อ หรือถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมได้ และอาจจะทำให้เกิดเป็นโรคตาขี้เกียจมาตามด้วย เพราะด้วยสาเหตุที่หนังตามาบดบังการมองเห็น ผู้ที่เกิดภาวะนี้ก็จะหลีกเลี่ยงการใช้สายตาข้างนั้น ๆ ทำให้ตาข้างนั้น เกิดปัญหาและไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ทำให้มีผลกระทบต่อการมองเห็นในอนาคตได้ หากคุณตกสงสัยว่า เราหรือคนที่เรารัก รวมถึงคนในครอบครัวของเรา มีภาวะเปลือกตาตกหรือไม่ ? เป็นโรคตาขี้เกียจหรือเปล่า ? ควรรีบมาพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจดูอาการโดยละเอียด

หนังตาตก

 

กลุ่มที่สอง อาจจเกิดอาการความผิดปกติภายหลัง ของกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายๆ สาเหตุ หลายๆ ประการ เช่น อุบัติเหตุบริเวณเปลือกตา เปลือกตาอักเสบ หรือกล้ามเนื้อเปลือกตาเกิดภาวะอาการอ่อนแรง ซึ่งทั้งหมด เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อตายืดหรือบาดเจ็บ เช่น ภูมิแพ้ทางตา ที่เกิดจากการขยี้ตาบ่อยๆ ใส่คอนแทคเลนส์ที่มีความโค้งไม่สอดรับกับตัวดวงตาหรือกระจกตา เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เนื่องจากคอนแทคเลนส์บาดตา หรือการทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ไม่ดีทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทสายตาเส้นที่ 3 หรือก้อนเนื้องอกทับเส้นประสาทตา ทำให้หนังตาตกหรืออ่อนแรงได้

หนังตาตก

และอีกกลุ่มหนึ่ง เกิดจากภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด  หรือศัลยกรรมรอบดวงตาแล้วไปถูกหรือกระทบกับเส้นประสาทกล้ามเนื้อในการเปิดปิดตา  หรืออาจะเกิดจากอายุที่มากขึ้น การยึดเกาะของตัวกล้ามเนื้อตาเสื่อมและหลุดไปตามอายุที่มากขึ้น

 

มาดูกันต่อว่า อาการที่บ่งบอกว่าเรามีภาวะความเสี่ยงของอาการหนังตาตก ?

ชั้นตาที่เคยมีอาการหลุด หรือเปลือกตาด้านบนตกลงมาต่ำมากกว่าปกติ ทำให้ภาวะการมองเห็นที่ชัดเจนในปกติลดลง หรือรู้สึกถึงชั้นหนังตาที่มีมากขึ้นหลายชั้น หรืออาจจะรู้สึกว่าเรามีอาการแสบตา เคืองตา หรือรู้สึกหนัก ๆ ที่เปลือกตา

หนังตาตก

ส่วนอีกกลุ่มประเภทหนึ่ง ก็คือ กลุ่มคนที่มีรูปลักษณะหางตาที่ตก แล้วต้องการปรับศัลยกรรม ก็สามารถเข้ามาปรับหรือทำการผ่าตัดศัลยกรรมยกหางตาเพื่อให้โครงรูปลักษณะบนใบหน้าดูดีขึ้นได้

 

มาดูกันต่อที่วิธีการรักษา ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี (สำหรับคนที่มีภาวะอาการหนังตาตก)

วิธีแรก เราจะใช้ยารักษาตามอาการที่เกิด เช่น ถ้าหากเกิดภาวะอาการตาแห้ง ก็ใช้น้ำตาเทียมหยอดรักษา หรือถ้าเป็นโรคกล้ามเนื้อตาบางชนิด ก็ให้ใช้การทานยาลดอาการที่เกิดขึ้นได้

วิธีที่สอง จะรักษาด้วยการผ่าตัด เป็นการรักษาเพื่อสร้างแรงกล้ามเนื้อที่เปลือกตา และทำให้การลืมตา ทำได้ดีขึ้นกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้ว หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ต้องตัดไหม และรอพักฟื้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ถึงจะมีอาการที่ดีขึ้น และจะเริ่มเข้าสู่ภาวะชั้นตาเปิดและใช้งานได้เป็นปกติ ก็จะอยู่ที่ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือนหลังจากการผ่าตัด เพราะต้องดูระยะการหลับตาและลืมตาว่าดูสวย เป็นธรรมชาติดีไหม การมองเห็น  เห็นอย่างไรบ้าง โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดและศัลยกรรมให้การหลับตาและลืมตา ทำให้มันสมดุลใกล้เคียงกับการใช้การแบบเดิมมากที่สุด

หนังตาตก

ภาวะหนังตาตก สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัน แต่ทุกอย่างมีทางแก้ไข หากคุณกำลังกังวลกับปัญหานี้อยู่ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากประการใดๆ ก็ตาม ลองเข้ามาปรึกษา หาแนวทางแก้ไขร่วมกันกับทีมงานศัลยแพทย์ของศิริพรคลินิก  ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามครบวงจร

 

เบอร์โทรศัพท์ : 094-969-4699

Facebook Page : Siriporn Aesthetic ศิริพร สุขภาพและความงาม

อีเมล์ : info@drsiriporn.com

วันทำการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) 11:00 น.- 20:00 น.

ที่อยู่ : 14/41 ซอยเจริญกรุง 107 ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120